ความหมายการการสำรวจข้อมูลระยะไกล(Remote Sensing) หมายถึง การบันทึกหรือการได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัตถุ พื้นที่เป้าหมายด้วยอุปกรณ์บันทึกข้อมูล (Sensor) โดยปราศจากการสัมผัสกับวัตถุนั้น ๆ ซึ่งอาศัยคุณสมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสื่อในการได้มาของข้อมูลใน 3 ลักษณะ คือ ช่วงคลื่น (spectral) รูปทรงสัณฐาน (spatial) และการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา (temporal) ของสิ่งต่าง ๆ บนพื้นผิวโลก (สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ,2538:1)
คำจำกัดความรีโมทเซนซิงในช่วงปี
ค.ศ. 1960 คือ “การใช้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า
(Electromagnetic radiation) ในการบันทึกภาพสิ่งที่อยู่โดยรอบซึ่งสามารถนำภาพมาทำการแปลความ
เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์” และหลังจากปี 1960
เป็นต้นมา คำนิยามของ รีโมทเซนซิง
ก็ได้มีความหลากหลายมากขึ้นตามความแตกต่างของลักษณะวิชาที่เกี่ยวข้อง เช่น
ทางด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์ ป่าไม้ เกษตร
อุตุนิยมวิทยา และสมุทรศาสตร์ เป็นต้น คำว่า “รีโมทเซนซิง “
เริ่มใช้ครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1960 (Japan
Association on Remote Sensing, 1993) ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับวิชา
โฟโตแกรมเมตรี (Photogrammetry) การแปลภาพถ่ายทางอากาศ (Photo
interpretation) และศาสตร์สาขาอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับคำจำกัดความของรีโมทเซนซิงที่ได้มีผู้บัญญัติศัพท์ไว้ในระยะต่อมา
สามารถรวบรวมได้มีอีกหลายคำจำกัดความด้วยกัน
โดยสรุปแล้ว
คำนิยามของรีโมทเซนซิงเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบสามส่วนใหญ่ คือ (1) ระบบบันทึกข้อมูลชนิดต่างๆ
ที่อยู่ห่างไกลจาก วัตถุหรือ พื้นที่เป้าหมาย (2) หลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า
และ (3) การวิเคราะห์
และแปลความหมายข้อมูลภาพที่บันทึกด้วยสายตา
และด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเอาข้อมูลที่ได้จากการแปลออกมาใช้ประโยชน์
กระบวนการทำงานของ Remote Sensing
กระบวนการทำงานของ Remote Sensing
กระบวนการรีโมทเซนซิง (Remote Sensing) มี 2 ลักษณะ
คือ 1) การรับและบันทึกสัญญาณข้อมูล (Data
acquisition) เป็นกระบวนการบันทึกพลังงานที่สะท้อน
หรือส่งผ่านของวัตถุโดย เครื่องมือบันทึกข้อมูลบนยานสำรวจ (platform) แล้วส่งข้อมูลเหล่านั้น ไปยังสถานีรับสัญญาณภาคพื้นดิน
เพื่อผ่านกรรมวิธีการผลิตเป็นข้อมูลทั้งในรูปแบบภาพถ่ายและข้อมูลเชิงตัวเลข. . 2)
การวิเคราะห์ข้อมูล (Data analysis) ประกอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสายตา
(Visual interpretation) และการวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
(Digital Analysis)
การพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านรีโมทเซนซิง สามารถแบ่งออกเป็น
2 ระยะ ดังนี้
(1)
ก่อนปี พ.ศ. 2503 (ค.ศ. 1960) ในยุคนี้ ภาพถ่ายทางอากาศ (Aerial photograph) ถูกนำมาใช้สำหรับงานปฏิบัติการทั้งหมด
(2) ต้นปี พ.ศ. 2503
การพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นมาก
และขอบเขตของระบบรับรู้จากสัญญาณดาวเทียม ก็ขยายมากขึ้น
และปริมาณข้อมูลรีโมทเซนซิง ที่สามารถอ่านได้โดย คอมพิวเตอร์ก็มีมากขึ้น
ซึ่งถือว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคของดาวเทียมอย่างแท้จริง โดยมีชาติมหาอำนาจ เช่น
สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย เป็นผู้นำและคู่แข่งทางวิทยาการด้านอวกาศ
ในระหว่างปี พ.ศ. 2503
– 2504 วิชารีโมทเซนซิง
ได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งทางด้านเนื้อหาและโครงสร้าง ในปี พ.ศ. 2503 เป็นช่วงที่มีการใช้การแปลภาพถ่ายทางอากาศขาวดำ ควบคู่ไปกับงานวิจัย
ที่ใช้ข้อมูลที่บันทึกจากเครื่องบินและเครื่องบันทึกข้อมูลจากดาวเทียม ช่วงปลาย
พ.ศ. 2503 ฟิล์มชนิดต่างๆ ได้ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง
และผลของการทดลองโดยการใช้ข้อมูลที่บันทึกโดยช่วงคลื่นอินฟราเรดความร้อน (Thermal
infrared) และช่วงคลื่นไมโครเวฟ (Microwave) ได้ถูกนำมาตีพิมพ์เผยแพร่มาก
ข้อมูลเชิงตัวเลข ได้พัฒนาตัวเองขึ้นอย่างรวดเร็วมาก หลังจากการส่งดาวเทียม ERTS
(Earth Resource Technology Satellite) ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น LANDSAT-1 ในปี พ.ศ. 2515
ซึ่งดาวเทียมนี้บรรจุเอาเครื่องมือบันทึกข้อมูลที่มีความสามารถบันทึกภาพของพื้นผิวโลกทุกๆ
18 วัน
และสามารถนำเอาสัญญาณดาวเทียมมาใช้ในการพัฒนาเทคนิคในการแปลภาพอย่างมากมาย.
ในปีต่อมาได้มีการแผ่ขยายของวิชารีโมทเซนซิง
ควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลดาวเทียม การวิเคราะห์ข้อมูล
โดยการขยายตัวของการศึกษา การฝึกอบรมด้านรีโมทเซนซิง และการพัฒนาด้านรีโมทเซนซิง
ตั้งแต่ต้น ค.ศ. 1820 ถึงปัจจุบัน สามารถบันทึกได้ดังตารางที่ 1 . ตารางที่
1 แสดงการพัฒนาการด้านรีโมทเซนซิง ปี ค.ศ.
การพัฒนาด้านรีโมทเซนซิง 1820 1859 1862 1910 1920 1960 1962 1962 1966
1972 1978 1982 1986 1988 1991 1995 1992-1998 1996-1997 1998 1999 2000 เริ่มต้นใช้กล้องถ่ายรูป
เริ่มต้นใช้บอลลูนในการบันทึกภาพ ณ.ประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นทำแผนที่ป่าไม้จากภาพถ่ายทางอากาศ. Wilbur
Wright บันทึกภาพพื้นโลกครั้งแรกจากเครื่องบินได้ทำการทำแผนที่ป่าไม้อย่างเป็นระบบจากภาพถ่ายทางอากาศ
โดยประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นใช้ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา TIROS-1.
เริ่มต้นใช้กล้องถ่ายรูประบบหลายช่วงคลื่น โดย Zaitor และ Tsuprun. เริ่มบันทึกพื้นผิวโลกจากยานอวกาศเมอคิวรี่
เริ่มใช้การวิเคราะห์ภาพข้อมูลโดยระบบคอมพิวเตอร์ในการประยุกต์ทางด้านการเกษตร
เริ่มส่งดาวเทียม LANDSAT-1 เข้าสู่วงโคจร เริ่มส่งดาวเทียม SEASAT.
เริ่มส่งดาวเทียม LANDSAT ระบบ Thematic
Mapping ดวงที่ 4 เริ่มส่งดาวเทียม SPOT
เริ่มส่งดาวเทียม IRS1-A โดยประเทศอินเดีย.
เริ่มส่งดาวเทียม IRS1-C โดยประเทศอินเดีย. เริ่มส่งดาวเทียม
RADARSAT โดยประเทศแคนาดา เริ่มส่งดาวเทียม JERS-1 โดยประเทศญี่ปุ่น เริ่มส่งดาวเทียม ADEOS โดยประเทศญี่ปุ่น.
เริ่มส่งดาวเทียม LANDSAT ระบบ Thematic Mapping ดวงที่ 7 (Enhanced Thematic Mapping – ETM) โดยเพิ่มช่วงคลื่นที่ใช้ศึกษาเกี่ยวกับพืช
(Vegetation Monitoring) อีก 1
ช่วงคลื่น. หน่วยงานเอกชนของสหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาระบบ IKONOS-2 ซึ่งมีรายละเอียด 1 เมตรในระบบขาวดำ และ 5 เมตรในระบบสี ญี่ปุ่นพัฒนาดาวเทียม ADEOS-2 : แคนาดาพัฒนา
RADARSAT-2 สหรัฐอเมริกาพัฒนา HRST, ออสเตรเลียพัฒนา
AIRIES อินเดียพัฒนา IRS-P สหรัฐ
(เอกชน) พัฒนา QUICKBIRD-1 อิสราเอล และสหรัฐร่วมกันพัฒนา WIS
Eros-A. ที่มา : อ้างจาก Star and Estes,1990
การใช้ข้อมูลรีโมทเซนซิง มีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือ ลดต้นทุน เทคนิคทางการประมวลผลภาพดาวเทียม
แต่ละชนิดจะถูกนำมาใช้ก็ต่อเมื่อได้ผ่านการทดลองที่ให้ผลมาเรียบร้อยแล้ว ในเร็วๆ
นี้ การนำเอาความรู้ด้านรีโมทเซนซิง
ไปประยุกต์เพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เช่น
การใช้ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งสามารถตัดทอนต้นทุนการรับข้อมูลจากสถานีอุตุนิยม-วิทยาถึงสามเท่าในกลุ่มประเทศยุโรป
1 ใน 4 เท่า ในสหรัฐอเมริกา และ 16 เท่า ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และในทำนองเดียวกัน
การใช้ข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกสามารถลดค่า
ใช้จ่ายในการผลิตแผนที่สิ่งปกคลุมดิน (Land Cover Map) ประมาณ
20 เท่า และค่าใช้จ่ายในการสำรวจป่าไม้ถึงครึ่งเท่า (Walkins,
1978). การนำเอาข้อมูลรีโมทเซนซิงมาประยุกต์ใช้ ในกลุ่มแรกคือ
การใช้ภาพถ่ายทางอากาศขาวดำ สำหรับงานทำแผนที่ (Cartography) และการใช้ภาพถ่ายทางอากาศสีเท็จ(False Color) ในการสำรวจป่าไม้
(ช่วงคลื่นอินฟราเรดใกล้) และการใช้ ช่วงคลื่นอินฟราเรดความร้อน
ของภาพในการศึกษาอุณหภูมิในเขตเมือง
ในกลุ่มที่สองได้มีการเพิ่มขึ้นของการศึกษาบรรยากาศของโลก
ด้านทะเลและทางด้านการเกษตร เช่น โครงการ World Weather Watch (WWW) และ Global Atmospheric Research Project (GARP) ซึ่งต้องอาศัยแหล่งข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม
ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ข้อมูลรีโมทเซนซิง
ในระยะนี้จะเน้นหนักทางด้านการเกษตรเพื่อตอบสนองความต้องการของสหรัฐอเมริกา
ในการที่จะได้รายละเอียดเกี่ยวกับผลผลิตด้านเมล็ดพันธุ์ของโลกก่อนที่จะมีการเก็บกำไรเกิดขึ้นในตลาดโลก
การศึกษาครั้งแรกเรียกว่า “Large Area Crop Inventory Experiment” (LACIE) ซึ่งทำการศึกษาผลผลิตข่าวสารของหลายประเทศ ในระหว่างปี พ.ศ. 2517 –
2520 เช่น รัสเซีย อเมริกา จีน ออสเตรเลีย และอินเดีย
ได้ทำประเมินจากผลคูณของพื้นที่เพาะปลูก จาก LANDSAT กับผลผลิตโดยประมาณที่คำนวณได้จากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา
ซึ่งการคำนวณนี้สามารถทำได้เป็นรายภาค ในเวลา 6 – 8 สัปดาห์
ก่อนที่ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งมีความถูกต้องถึง 90 % ข้อมูลนี้จะมีค่าประมาณ
200 ล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละป
รีโมทเซนซิงกับประเทศไทย
รีโมทเซนซิงกับประเทศไทย
ประเทศไทยนับได้ว่าเป็นประเทศแนวหน้าในเอเชียอาคเนย์ที่นำเทคโนโลยีด้านนี้มาใช้ประโยชน์
และได้เข้าร่วมโครงการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียมขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ
สหรัฐอเมริกา (NASA) เมื่อวันที่ 14
กันยายน 2514
การดำเนินการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยอยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการประสานงานการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียม
เป็นแกนกลางในการกำหนดนโยบายและถ่ายทอดเทคโนโลยี อาจกล่าวได้ว่า
การตื่นตัวเรื่องการใช้ข้อมูลรีโมทเซนซิง ได้เริ่มตั้งแต่มีการก่อตั้งสถานีสัญญาณดาวเทียมขึ้นที่อำเภอลาดกระบัง
เมื่อปี พ.ศ. 2524 (สุวิทย์ , 2536) เพื่อรับข้อมูลโดยตรงจากดาวเทียม
LANDSAT และ NOAA โดยได้เริ่มปฏิบัติการรับสัญญาณดาวเทียม
LANDSAT-2 ในระบบ MSS เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน
พ.ศ. 2525 และได้ขยายขอบเขตการบริการข้อมูลออกไปอย่างกว้างขวางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
นับได้ว่าเป็นสถานีรับสัญญาณดาวเทียมแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มีรัศมีรับสัญญาณไปได้ไกลถึง 2,500 กิโลเมตร (ภาพที่ 1.2)
ซึ่งครอบคลุม 17 ประเทศ
และได้รับการปรับปรุงให้สามารถรับข้อมูลจากดาวเทียมที่มีรายละเอียดสูงได้ในปลายปี
พ.ศ. 2530 โดยสามารถรับข้อมูลระบบ Thematic Mapping
(TM) จาก LANDSAT-5 ซึ่งมีรายละเอียดข้อมูล 30 เมตร x 30 เมตร และระบบ High Resolution
Visible (HRV) ของดาวเทียม SPOT ซึ่งรายละเอียดข้อมูล
20 เมตร x 20 เมตร ในภาพสี (Multispectral
model) และ 10 เมตร x 10
เมตร ในภาพขาวดำ (Panchromatic model) เป็นต้น ในปี 2531 สามารถปรับปรุงข้อมูลระบบ MOS-1
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างองค์การพัฒนาอวกาศแห่งชาติญี่ปุ่นได้ และในปี 2535 สถานีรับสัญญาณฯ ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถรับข้อมูลจากดาวเทียมโดยระบบเรดาร์
เช่น ERS-1 และ JERS-1 ซึ่งสามารถทะลุเมฆได้ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อการจัดการทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้นกว่าเดิม
แนวโน้มการพัฒนาการสำรวจข้อมูลระยะไกล
แนวโน้มการพัฒนาการสำรวจข้อมูลระยะไกล
ปัจจุบันได้มีดาวเทียมรุ่นใหม่ของสหรัฐอเมริกาที่มีขีดความสามารถมาก
กล่าวคือ ดาวเทียมสามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงมาก (Resolutions ) มีขนาดต่ำกว่า 1 เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับภาพถ่ายทางอากาศ และสามารถนำไปใช้ทำแผนที่มาตราส่วน 1
: 4,000 ได้ รวมทั้งยังสามารถเอียงถ่ายภาพในมุมต่างๆ
อันเป็นประโยชน์ที่จะได้ข้อมูลรวดเร็วมากขึ้น ดาวเทียมรายละเอียดสูงมากดังกล่าว
ได้แก่ ดาวเทียม IKONOS และดาวเทียม Quick Bird – 2 นอกจากนี้ ยังได้มีดาวเทียมดวงใหม่ ดาวเทียม SPOT - 5 จากประเทศฝรั่งเศส ที่ถ่ายภาพใน รายละเอียด 2.5 ถึง 5
เมตร ถ่ายภาพในลักษณะ Stereo Pairs เรียกว่า High
Resolution Stereo ( HRS ) ดาวเทียมรายละเอียดสูงที่มีความสามารถพิเศษและพร้อมใช้งานดังกล่าวข้างต้น
เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีของดาวเทียมที่เข้ามาใช้งานในระดับเดียวกับการถ่ายภาพทางอากาศ
ข้อมูล ภาพถ่ายดาวเทียมที่มีรายละเอียดสูงมากและเป็นข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์ (Up-to-date
information) สามรถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการทรัพย์สิน ได้แก่
ทรัพยากรต่างๆของประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
รวมทั้งการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระบบจังหวัด อำเภอ และองค์กรส่วนท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น การพัฒนาเทคโนโลยีทางอากาศในด้านดาวเทียมรายละเอียดสูงและการประยุกต์ใช้
ประโยชน์จากข้อมูลรายละเอียดสูงควบคู่ไปกับการพัฒนาและประยุกต์ข้อมูลเรดาร์ที่สามารถให้
ข้อมูลทุกฤดูกาล เป็นวิทยาการใหม่ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานในภาครัฐและเอกชน
รวมทั้งหน่วยงานต่างประเทศ จึงเป็นแนวโน้มของการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศต่อไป. .
องค์กรระหว่างประเทศดังกล่าวที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ International
Organization for Standardization / Technical Committee 211 (ISO / TC211) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศเกี่ยวกับสารสนเทศภูมิศาสตร์
/ ภูมิสารสนเทศ ประเทศไทยมีสำนักงาน มาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ) เป็นหน่วยงานผู้แทน,
federal Geographic Data Committee (FGDC) หน่วยงานประสานงานและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่แห่งชาติ
หรือ National Spatial Data Infrastructure
การโหลดภาพถ่ายดาวเทียม
ที่มา : อานันต์ คาภีระ, (2549). ศูนย์ภูมิภาคเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (ภาคใต้), คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
โหลดภาพถ่ายดาวเทียมจากเว็บ EarthExplorer
เลือกพื้นที่ที่เราต้องการโหลด จากนั้นกดData Sets
กด Landsat Archive เพื่อนเลือก เลือกดาวเที่ยวที่เราต้องการ
จากนั้นกด Results จากนั้นเลือกภาพที่เราต้องการโหลด และกดดาวโห
เมื่อโหลดเสร็จ จะได้ดังภาพนี้เป็นอันเสร็จการโหลดภาพถ่าย
ขั้นตอนต่อไปเป็นการตัดขอบเขตภาพถ่ายที่สนใจศึกษา (Arcmap 10)
เปิดโปรแกรม Add Data เลือกภาพภ่ายแบน1-7 สำหรับ Landsat8
จากนั้นกด ADD
จากนั้นกด windows > lmage Analysis เพื่อทำการรวมแบน
เลือกแบนทั้งหมดจากนั้นกด >composite bands
จากนั้นทำการ Remove ข้อมูลเก่าออก
ดับเบิ้ลคลิ๊กชั้นข้อมูล เพื่อทำการผสมแบนตามต้องการ
คุณสมบัติของแบนต่างๆ
จากนั้น add data ขอบเขตพื้นที่ศึกษาเข้ามา
searchเครื่องมือ Clip (data management) เพื่อทำการตัดเฉพาะขอบเขตที่เราต้องการ
input ให้เลือก ข้อมูลที่เรารวมแบนไว้แล้ว
output ขอบเขตที่เราต้องการศึกษา จากนั้นเลือกที่ save
เมื่อกด save จะได้ภาพถ่ายดาวเทียมในพื้นที่ที่เราต้องการ
จำแนก 5
ระดับ
1. Farm 1 คือ พืชพรรณสมบูรณ์มาก
2. Farm 2 คือ
พืชพรรณเก็บเกี่ยวไปบางส่วน
3. bare soil คือ
พืชพรรณเก็บเกี่ยวแล้ว/พื้นที่โล่ง
4. Urban คือ พื้นที่ชุมชน
หรือเมือง
5. Water คือ พื้นที่น้ำทั้งหมด
ทำการเน้นความคมชัดของภาพ และ Digitize Training Area เน้นพื้นที่ที่เป็นพืชพรรณ
โดยกำหนดเงื่อนไขดังนี้
•1 Veg 1 = พื้นที่ที่เป็นพืชพรรณหนาแน่น
สมบูรณ์ 10 จุด
•2 Veg 2 = พื้นที่พืชพรรณที่เก็บเกี่ยวไปบางส่วน 5 จุด
•3. bare soil = พื้นที่พืชพรรณที่เก็บเกี่ยวแล้ว
หรือพื้นที่ว่างเปล่า 10 จุด
•4 Urban = พื้นที่เมือง หรือชุมชน 3 จุด
•5. Water = พื้นที่น้า 5 จุด
ตัวอย่างการเก็บพื้นที่ 10 จุด ของพื้นที่พืชพรรณสมบูรณ์ เจริญเติบโตดี
ตัวอย่างการเก็บ training area ครบทั้ง 5 ประเภท
•แสดงแผนที่ที่ได้จากการจำแนกแบบ Maximum Likelihood
•แสดง report และ legend ที่ได้จากการจำแนก
ผลลัพธ์ในการจำแนก
report
and legen
วิธีการการจำแนกพืชพรรณโดยวิธี Supervised
มีวิจัยที่นำไปใช้ดังนี้
1. ศิริพงษ์ ศรีพรหม (2558 ) ได้ศึกษาการประยุกต์ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
1. ศิริพงษ์ ศรีพรหม (2558 ) ได้ศึกษาการประยุกต์ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
2. ยลดา อนุรัตน์บดี (2558 ) ได้การศึกษาการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดชลบุรี
กรณีศึกษาเวลาระหว่างปีพ.ศ. 2547 และปีพ.ศ.2557
คณะผู้จัดทำ
นาย ธนวิช ธนะภูมิชัย 55670099 3301
นาย ศิริพงษ์ ศรีพรหม 55670111 3301
นางสาว พัชรี เพ็ชร์อุดม 55670194 3301
นางสาว ยลดา อนุรัตน์บดี 55670172 3302
นางสาว เมธนี ภาวงค์ 55670171 3302
นาย ธนวิช ธนะภูมิชัย 55670099 3301
นาย ศิริพงษ์ ศรีพรหม 55670111 3301
นางสาว พัชรี เพ็ชร์อุดม 55670194 3301
นางสาว ยลดา อนุรัตน์บดี 55670172 3302
นางสาว เมธนี ภาวงค์ 55670171 3302
*หากมีข้อผิดพลาดประการใดคณะผู้จัดทำ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ^^






















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น